เรียนฝึกเสียง Voice Training

Voice Training

ตามปกติ คนเราต้องใช้เสียงในการติดต่อสื่อสาร พูดคุย หรือ แสดงความคิดเห็นอยู่ตลอดเวลา “น้ำเสียง” จึงเป็นสิ่งหนึ่งที่สามารถสะท้อนหรือบ่งบอกตัวตนของเราได้ เช่นเดียวกับบุคลิกท่าทางหรือการแสดงออกทางสีหน้าแววตา ย้ำอีกครั้งนะคะว่าเรากำลังพูดถึง “น้ำเสียง” ไม่ใช่ “ภาษา”

หากเรามี “คำพูด” ที่ตระเตรียมมาอย่างสวยงาม แต่ใช้ “น้ำเสียง” ที่ไม่ชัดเจนหรือไม่เหมาะสม ก็อาจทำให้การสื่อสารคลาดเคลื่อน เกิดความเข้าใจผิด พาลเสียหายไปถึงตัวตนของเราด้วย เหมือนที่เราเคยได้ยินคนพูดกันว่า คนนี้เสียงเบาจัง พูดอยู่ในลำคอ ดูไม่มั่นใจเลย หรือ คนนี้เสียงดังฟังชัดดีนะ ดูน่าเชื่อถือ เป็นต้น

‘น้ำเสียง’ จึงเป็นสิ่งที่เกี่ยวข้องกับ ‘บุคลิกภาพ’ ของเราโดยตรง และอาจเกี่ยวข้องกับ ‘อาชีพการงาน’ ของหลายคนด้วยก็เป็นได้

อ่านมาถึงตรงนี้ หากคุณคิดว่า “แล้วจะไปสนใจคนอื่นทำไม เราพูดส่วนของเราไปแล้ว ฟังไม่รู้เรื่องก็ช่วยไม่ได้ เป็นปัญหาของเขา” คอร์สนี้อาจไม่เหมาะกับคุณค่ะ

หมายเหตุ คอร์สนี้เน้นพัฒนาคุณภาพเสียงพูด ไม่ใช่การเรียนร้องเพลง ไม่ใช่การสอนพูดวาทศิลป์ โต้วาที หรือพูดปลุกใจใด ๆ


กรุณาสละเวลาชมคลิปวีดีโอด้านบน หรืออ่านข้อมูลต่าง ๆ “ก่อนตัดสินใจสมัครเรียน”
–> ดูคลิปตอบทุกคำถาม

รายละเอียดข้อมูลในคลิป (นาที)

00:00 – Introduction
00:14 – รู้จักผู้สอน ทำไมถึงมาสอนฝึกเสียง
01:34 – สิ่งที่ผู้เรียนจะได้รับ
02:06 – รูปแบบการเรียนการสอน
02:11 – เรียนเดี่ยว ข้อดี ข้อเสีย
02:51 – เรียนเดี่ยว ระยะเวลาเรียน
03:27 – เรียนกลุ่ม ข้อดี ข้อเสีย
04:26 – เรียนกลุ่ม ระยะเวลาเรียน
05:04 – สถานที่เรียน
05:17 – เรียนออนไลน์ได้ไหม
05:59 – รับสอนนอกสถานที่ไหม
06:23 – นักเรียนส่วนมากอายุเท่าไหร่ เรียนไปทำไม
07:47 – เรียนจบแล้วจะทำได้ไหม
08:18 – การรักษาความเป็นส่วนตัวให้ผู้เรียน
08:52 – บทส่งท้าย


ใครที่ควรมาเรียน

จากประสบการณ์ของผู้สอน คนมาเรียนมีแทบทุกอาชีพ ตั้งแต่ อาจารย์ แพทย์ เภสัชกร นักการตลาด สถาปนิก ผู้บริหาร พระสงฆ์ ล่าม นักแสดง วิทยากร ผู้ประกาศ นักโฆษณา นักจิตวิทยา เทรนเนอร์ออกกำลัง นักเรียน นักศึกษา และอีกมากมายบรรยายไม่หมด โดยมากเป็นผู้ใหญ่วัยทำงานขึ้นไป อาจเป็นเพราะว่าเพิ่งมาเห็นความสำคัญของเรื่องนี้เมื่อเข้าวัยทำงาน

ปัญหาที่พบส่วนมากคือ พูดไม่เต็มเสียง เสียงเบา เจ็บคอเมื่อพูดนานๆ เสียงไม่น่าฟัง เสียงสั่น เสียงโมโนโทน เสียงแข็ง เสียงแหลมไป เป็นต้น

นักเรียนบางคนเป็นผู้ประกอบการที่มีร้านค้าอยู่ข้างถนน มาเรียนด้วยเหตุผลว่าต้องตะเบ็งเสียงแข่งกับรถที่วิ่งบนถนนเพื่อคุยกับลูกค้าก็มี แต่อย่าเพิ่งเข้าใจผิดว่าต้องมีปัญหาถึงมาเรียนได้ นักเรียนบางคนเสียงดีอยู่แล้ว แต่ก็มาฝึกเพิ่มพลังเสียงให้ตัวเองในคอร์สนี้เช่นกัน

ผู้สอนมาสอนเรื่องนี้ได้เพราะเคยมีปัญหาเรื่องการใช้เสียงมาก่อน ถึงขั้นต้องหยุดพูดไปเป็นเดือน จะเรียกว่าเป็นข้อได้เปรียบก็ได้ เพราะเคยต้องปรับวิธีพูดของตัวเองมาแล้ว

ดังนั้น ขอให้นักเรียนมั่นใจได้ว่า ผู้สอนจะมีความเข้าใจอย่างยิ่งในปัญหาที่ทุกคนกำลังเผชิญ และอยากบอกว่า ทุกอย่างแก้ไขได้ถ้าเรามีความตั้งใจและมุ่งมั่น


คุณสมบัติของผู้เรียน*

  1. มีความตั้งใจจริง – “การเปลี่ยนวิธีการออกเสียง คือการปรับเปลี่ยนพฤติกรรมที่เราทำมานานจนเคยชิน” ต้องใช้ความตั้งใจและความพยายามในการฝึกฝนจึงจะสำเร็จได้
  2. มีทัศนคติที่ดีต่อตัวเองและผู้อื่น – ข้อนี้สำคัญมาก ผู้สอนให้ความสำคัญกับบรรยากาศในการเรียนเป็นอันดับต้น ๆ เพราะเชื่อว่าหากทุกคนมาด้วยทัศนคติที่ดี “ปราศจากการตัดสินหรือตำหนิตนเองและผู้อื่น” การพัฒนาจะเกิดขึ้นได้รวดเร็วมาก

สิ่งที่จะได้รับ

  1. เรื่องพื้นฐานทั้งหมด – วิธีหายใจที่ถูกต้อง วิธีควบคุมเสียง การพูดให้เสียงมีพลัง วิธีวอร์มเสียง โทนเสียง และอื่นๆ อีกมากมาย
  2. รู้และเข้าใจปัญหาที่แท้จริงของตัวเอง – เริ่มฟังออก วิเคราะห์เสียงของตัวเองและผู้อื่นได้
  3. รู้วิธีแก้ปัญหาที่เกิดขึ้น – การแก้เสียงอาจใช้เวลาสักพัก แต่หากเรารู้ว่าต้องทำอย่างไรและฝึกฝนอย่างต่อเนื่อง เราจะแก้ไขมันได้ในที่สุด

คอร์สเดี่ยว

เน้นเจาะลึกลงไปที่ปัญหาเฉพาะบุคคล โดยในช่วงระยะเวลาที่เรียน ผู้เรียนควรฝึกฝน ส่งการบ้าน และมีวินัยในตัวเองเพื่อให้เกิดการพัฒนา


คอร์สกลุ่ม

เนื่องจากสถานการณ์ Covid-19 จึงงดการจัดคอร์สกลุ่มไปก่อน หากต้องการทราบข่าวสารของคอร์ส สามารถสอบถามหรือแจ้งแอดมินในไลน์ได้ค่ะ

รอบที่ 1: วันที่ 7-8 มีนาคม 2563
(คลิกเพื่อดูภาพบรรยากาศ)

รอบที่ 2: วันที่ 26-27 กันยายน 2563
(คลิกเพื่อดูภาพบรรยากาศ)

รอบที่ 3: วันที่ 14-15 พฤศจิกายน 2563
(คลิกเพื่อดูภาพบรรยากาศ)

เรียนหลายคนแล้วจะได้ผลหรือ

ผู้สอนเคยมีความเชื่อว่า เรียนฝึกเสียงต้องเรียนเดี่ยวแบบตัวต่อตัวเท่านั้น เพราะปัญหาของแต่ละคนไม่เหมือนกัน จึงสอนเดี่ยวมานานหลายปี กระทั่งปีหลังๆ จำนวนนักเรียนมีมากขึ้น เลยทดลองจัดกลุ่มให้เรียนรวมกัน พร้อมปรับวิธีการสอนเสียใหม่ จึงพบว่า ข้อดีของการเรียนเป็นกลุ่ม  มีมากมายหลายประการ ยกตัวอย่างเช่น

  1. นักเรียนที่มีปัญหาเสียงเบา ส่วนมากมักไม่กล้าแสดงออก ไม่มั่นใจในตัวเอง มีโลกส่วนตัวสูง เมื่อมาเรียนเป็นกลุ่มจะได้ฝึกความกล้าในการพูดต่อหน้าคนอื่น และฝึกการสร้างสัมพันธ์ไปในตัว
  2. การเรียนเป็นกลุ่มจะทำให้นักเรียนพบว่าเราไม่ใช่คนเดียวในโลกที่มีปัญหา เราจะพบคนที่มีปัญหาต่างๆ กันในไปคอร์ส ได้ร่วมฝึกร่วมแก้ไขไปด้วยกัน และเมื่อบรรยากาศในห้องเรียนมีแต่ความช่วยเหลือเกื้อกูล ผู้สอนสังเกตได้ชัดเจนว่านักเรียนดูมีกำลังใจมากกว่าตอนเรียนอยู่กับครูเพียงสองคน
  3. เมื่อคนในกลุ่มมีปัญหาการพูดที่ต่างจากเรา นักเรียนจะได้เห็นวิธีแก้ไขปัญหาที่ผู้สอนใช้กับแต่ละคน ทำให้ขยายองค์ความรู้ด้านนี้ไปได้อีกมาก ซึ่งผู้สอนคิดว่าเรื่องนี้เป็นประโยชน์จริงๆ
  4. งานวิจัยทางจิตวิทยากล่าวชัดเจนว่า การทำอะไรโดยมีคนอื่นร่วมทำไปพร้อมๆ กัน ส่งผลให้ผู้ทำกิจกรรมนั้นมีความตื่นตัว และพยายามเอาชนะอุปสรรคได้มากกว่าการทำคนเดียว
  5. คนอื่นเปรียบเหมือนกระจกสะท้อนตัวเรา เรื่องบางเรื่องเราอาจคิดไปเองว่าดีหรือไม่ดี การมีทั้งครูและเพื่อนร่วมห้องมาช่วยยืนยันและแสดงความเห็นในเชิงสร้างสรรค์ จะสร้างความมั่นใจให้นักเรียนมากขึ้น

ส่วน ข้อเสียในการเรียนเป็นกลุ่ม ที่ผู้สอนพบ และหาแนวทางแก้ปัญหาไว้แล้ว คือ

  1. ระยะเวลาในการฝึกฝน นักเรียนต้องฝึกต่อไปโดยไม่มีคนมาคอยบอกคอยเตือนในระยะยาว หนทางแก้ปัญหานี้คือ เมื่อจบคอร์สไปแล้ว นักเรียนสามารถส่งคำถาม ส่งเสียง หรือคลิปที่อัดไว้มาให้ผู้สอนฟัง และช่วยกันพัฒนาปรับปรุงได้ตลอด
  2. การแบ่งเวลาให้นักเรียนแต่ละคนที่มีปัญหามากน้อยต่างกัน อาจทำให้เกิดความเหลื่อมล้ำด้านเวลา ทั้งนี้ ผู้สอนได้เผื่อเวลาช่วงท้ายของวันไว้ ให้คนที่มีข้อสงสัยส่วนตัวมาซักถามได้

About Teacher   อัตราค่าเรียน Click!   สนใจสมัครเรียน Click!
0 replies on “เรียนฝึกเสียง Voice Training”